“ฟ้องชู้” ต้องชัดเจนแค่ไหนถึงจะฟ้องได้
- Kratay Sagaoduen
- 8 มิ.ย. 2565
- ยาว 2 นาที
อัปเดตเมื่อ 26 มิ.ย. 2565
ชายที่ร่วมประเวณีกับภรรยาผู้อื่น เรียกว่า เป็นชู้ ส่วนหญิงที่มีสามีอยู่แล้ว ร่วมประเวณีกับชายอื่น เรียกว่า มีชู้

การฟ้องชู้ จะต้องมีหลักฐานอะไรบ้าง จะหาพยานหลักฐานเรื่องชู้ได้จากไหน สืบชู้ต้องทำอย่างไร เป็นคำถามของผู้ที่ต้องการฟ้องชู้ เพื่อจะได้ฟ้องและสู้คดีได้อย่างถูกต้อง
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1523 วรรคสอง “สามีจะเรียกค่าทดแทนจากผู้ซึ่งล่วงเกินภริยาไปในทำนองชู้สาวก็ได้ และภริยาจะเรียกค่าทดแทนจากหญิงอื่นที่แสดงตนโดยเปิดเผยเพื่อแสดงว่าตนมีความสัมพันธ์กับสามีในทำนองชู้สาวก็ได้”
การฟ้องชู้ในกรณีที่สามีฟ้องชายชู้ กับภรรยาฟ้องหญิงชู้ มีหลักเกณฑ์ไม่เหมือนกัน กล่าวคือ
กรณีภรรยาฟ้องชู้ กฎหมายกำหนดหลักเกณฑ์ว่า หญิงชู้นั้นจะต้องมีพฤติการณ์แสดงตนโดยเปิดเผยว่ามีความสัมพันธ์ในทำนองชู้สาวกับสามี
“แสดงตนโดยเปิดเผยว่ามีความสัมพันธ์ในทำนองชู้สาว” หมายความว่าอย่างไร
หมายถึง ชู้และสามีนั้น มีพฤติการณ์เปิดตัวหรือแสดงตัวว่าตนเองเป็นคนรัก บุคคลทั่วไปทราบว่าหญิงชู้มีความสัมพันธ์ในทำนองชู้สาวกับสามี ตัวอย่างเช่น
•คบหากันอย่างเปิดเผย เพื่อนร่วมงานที่ทำงาน หรือเพื่อนบ้านข้างเคียงทราบดีว่าเป็นคนรักกัน
•แสดงความรักหรือแสดงความสัมพันธ์ในทำนองชู้สาวโดยเปิดเผยให้กับคนทั่วไปได้รับทราบ เช่น การเดินจับมือ หรือโอบกอดในที่สาธารณะ
• มีพฤติการณ์โพสต์รูปคู่ วิดีโอ ตามสื่อออนไลน์ต่างๆ ที่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเป็นคนรักกัน
• จัดงานพิธีสมรสกัน หรือออกงานพิธีต่างๆ เช่น การไปร่วมงานแต่งงาน ร่วมงานศพและแสดงตัวเปิดเผยว่าเป็นคนรักกัน
ทั้งนี้ สามีกับหญิงชู้นั้นจะมีเพศสัมพันธ์กันหรือไม่ ไม่ใช่เป็นเงื่อนไขของการฟ้องคดี ถึงแม้สามีกับหญิงชู้จะไม่ได้มีเพศสัมพันธ์กัน หรือไม่ได้มีหลักฐานถึงขั้นว่าทั้งสองคนมีเพศสัมพันธ์กัน แต่หากมีพยานหลักฐานชัดเจนว่ามีการแสดงตนโดยเปิดเผย ว่าคบหาหรือมีความสัมพันธ์กันอย่างคนรัก เช่น มีการลงรูปคู่ด้วยกัน ถ่ายวิดีโอคู่กัน เดินกอด จับมือหรือแสดงตนว่าเป็นคนรักกันตามสถานที่ต่างๆ ก็สามารถฟ้องร้องดำเนินคดีได้ ประการสำคัญ คือ หญิงชู้กับสามีนั้น จะต้องมีพฤติการณ์เปิดเผย เป็นที่รู้กันของคนจำนวนหนึ่ง ไม่ใช่เป็นแต่เพียงการแอบคบหากันอย่างลับๆ หรือมีความสัมพันธ์ชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น
ส่วนการร่วมประเวณีกันนั้น เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่จะทำให้ศาลกำหนดค่าทดแทนให้สูงขึ้น
คำพิพากษาที่ศาลวินิจฉัยว่า ไม่เป็นการแสดงตนโดยเปิดเผย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 10851/2555 การที่จำเลยกับสามีโจทก์อยู่ด้วยกันตามลำพังในโรงแรมชานเมือง แม้เป็นพฤติกรรมที่ทำให้น่าเชื่อว่าจำเลยอาจจะไปมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับสามีโจทก์ก็ตาม แต่เมื่อสิทธิที่โจทก์จะเรียกค่าทดแทนจากจำเลยนั้น จำเลยต้องแสดงตนโดยเปิดเผยเพื่อแสดงว่าตนมีความสัมพันธ์กับสามีโจทก์ในทำนองชู้สาวเท่านั้น แต่การกระทำดังกล่าวมีลักษณะเป็นการลักลอบและพยายามปกปิดการกระทำให้ทราบกันตามลำพังระหว่างจำเลยและสามีโจทก์ โจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียกค่าทดแทนจากจำเลย
คำพิพากษาที่ศาลวินิจฉัยว่า เป็นการแสดงตนโดยเปิดเผย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6516/2552 แม้จำเลยที่ 1 จะไม่เคยพาจำเลยที่ 2 ออกงานสังคม หรือแนะนำให้บุคคลอื่นรู้จักในฐานะภริยาแต่การที่จำเลยทั้งสองไปไหนมาไหนด้วยกันอย่างเปิดเผยอยู่ในบ้านซึ่งปลูกสร้างในแหล่งชุมชนด้วยกันในเวลากลางคืน ขับรถรับส่งเมื่อไปทำกิจธุระหรือซื้ออาหารด้วยกัน ย่อมบ่งชี้ว่าจำเลยทั้งสองมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวและเอื้ออาทรดูแลเอาใจใส่ต่อกัน แสดงว่าจำเลยที่ 1 ยกย่องจำเลยที่ 2 ฉันภริยาอันเป็นเหตุหย่าตาม ป.พ.พ. มาตรา 1516 (1) แล้ว และโจทก์ยังมีสิทธิเรียกค่าทดแทนจากจำเลยที่ 2 ที่แสดงตนโดยเปิดเผยว่ามีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นสามีโจทก์ให้ร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1 ต่อโจทก์ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1523 วรรคหนึ่ง ได้อีกด้วย
กรณีสามีฟ้องชู้
กรณีสามีฟ้องชายชู้นั้น เพียงแค่มีชายอื่นซึ่งมาล่วงเกินภริยาไปในทำนองชู้สาวก็สามารถฟ้องเรียกค่าทดแทนได้แล้ว
“ล่วงเกินภริยาในทำนองชู้สาว” หมายความว่าอย่างไร
การล่วงเกินภรรยาไปในทำนองชู้สาว เช่น แตะเนื้อต้องตัว จูบ จับต้องในบริเวณที่ไม่ควร นอนกอดกัน ทำการหยอกล้อเกี้ยวพาราสีกันในลักษณะที่เกินกว่าวัฒนธรรมของประเทศไทยจะรับได้ โดยไม่จำเป็นที่จะต้องมีการร่วมประเวณี แต่หากมีการร่วมประเวณี ก็ย่อมถือว่าเป็นการล่วงเกินภรรยาในทำนองชู้สาวอย่างชัดเจนและร้ายแรงที่สุด
การล่วงเกินภรรยาไปในทำนองชู้สาวนั้น ไม่ว่าจะมีการร่วมประเวณีหรือไม่ ไม่จำเป็นต้องทำโดยเปิดเผย ไม่ต้องประกาศให้บุคคลอื่นทั่วไปรู้ อาจจะเป็นการแอบคบหา และแอบมีความสัมพันธ์กันในที่ลับ สามีก็มีสิทธิฟ้องได้
ทั้งนี้รวมถึงการที่ภรรยาได้แสดงตนโดยเปิดเผย ว่าคบหาหรือเป็นคนรักกับชายชู้ มีพฤติการณ์ที่เป็นให้รู้อยู่ทั่วไปว่า ชายชู้คนดังกล่าวเป็นคนรักของตน สามีก็มีสิทธิฟ้องได้เช่นเดียวกัน
แต่การแสดงตนโดยเปิดเผยระหว่างชายชู้กับภริยา ไม่ใช่เงื่อนไขในการฟ้องชายชู้ของสามี การฟ้องของสามีเป็นแต่เพียงเหตุที่ศาลจะกำหนดค่าทดแทนให้สูงขึ้นเท่านั้น
ดังนั้น กรณีมีชายอื่นมาล่วงเกินภริยาในทำนองชู้สาว แม้จะมีความสัมพันธ์กันโดยไม่เปิดเผยสามีก็มีสิทธิฟ้องได้
ต่างจากกรณีภรรยาฟ้องหญิงชู้ ที่กฎหมายบังคับว่าหญิงชู้กับสามีจะต้องแสดงตนโดยเปิดเผย ภริยาจึงจะฟ้องได้ ดังนั้นในทางกลับกัน สามีไปแอบคบหากันแบบลับๆกับหญิงอื่น หรือไปมีความสัมพันธ์กันแบบชั่วคราว หรือไปซื้อบริการทางเพศกับหญิงอื่น ภริยาก็ฟ้องไม่ได้
ตัวอย่างคำพิพากษาศาลฎีกา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6804/2558 เมื่อปรากฏว่าจำเลยที่ 2 ทราบแล้วว่า จำเลยที่ 1 เป็นภริยาของโจทก์แต่ยังเป็นชู้และร่วมประเวณีกับจำเลยที่ 1 เป็นอาจิณ โจทก์ซึ่งเป็นสามีย่อมมีสิทธิฟ้องให้จำเลยที่ 2 ต้องรับผิดใช้ค่าทดแทนแก่โจทก์ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 320/2530 การล่วงเกินในทำนองชู้สาวตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1523 วรรคสองมีความหมายรวมถึงการทำชู้ด้วย สิทธิเรียกค่าทดแทนนี้มิได้มีเงื่อนไขว่าสามีจะต้องฟ้องหย่าภริยาเสียก่อนจึงจะฟ้องเรียกค่าทดแทนจากผู้ล่วงเกินภริยาในทำนองชู้สาวได้และค่าทดแทนในกรณีนี้เป็นค่าเสียหายอย่างหนึ่งที่ชายชู้ต้องรับผิด ศาลมีอำนาจกำหนดให้ตามฐานานุรูปแห่งผู้ต้องได้รับความเสียหาย ซึ่งรวมถึงความเสียหายต่อเกียรติคุณของโจทก์ด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2936/2522 การนอนกอดกันกับภริยาของผู้อื่นเพราะรักใคร่กันในทางชู้สาว หรือกระทำถึงขั้นร่วมประเวณีกับภริยาของผู้อื่น ก็ล้วนแต่ต้องถือว่าได้ล่วงเกินภริยาของเขาไปในทำนองชู้สาวทั้งสิ้น โจทก์มีสิทธิฟ้องเรียกค่าทดแทนจากจำเลยได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1523วรรคสอง (ที่ได้ตรวจชำระใหม่) (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1113/2514 วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่)
หลักฐานที่ใช้สำหรับฟ้องชู้
หมายถึง หลักฐานทั่วไป ที่ต้องใช้ประกอบการยื่นฟ้อง และเพื่อเป็นเกณฑ์กำหนดค่าทดแทนที่จะเรียกร้อง อาทิเช่น
· ทะเบียนสมรส
· บัตรประชาชน ของท่านและคู่สมรส
· ใบเปลี่ยนชื่อของท่านหรือของคู่สมรส(หากมี)
· ทะเบียนบ้าน ของผู้ฟ้องคดี
· สูติบัตร (กรณีมีบุตรด้วยกัน)
· หลักฐานการประกอบอาชีพ รายได้ของท่านและคู่สมรส เช่น สลิปเงินเดือน หนังสือรับรอง
เงินเดือน เป็นต้น
· หลักฐานวุฒิการศึกษาของท่านและคู่สมรส เช่น ใบปริญญาบัตร
· หลักฐานเกี่ยวกับสถานะทางสังคมของท่าน และคู่สมรส เช่น การประกอบอาชีพที่มีคนรู้จัก
เป็นจำนวนมาก เช่น ขายของออนไลน์ ไลฟ์โค้ช นักแสดง เป็นต้น
· หลักฐานการจัดงานแต่งงาน เช่น การ์ดเชิญ ภาพถ่าย บิลค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการจัดงาน
แต่ง
หลักฐานเกี่ยวกับชู้
หมายถึง พยานหลักฐานที่จะชี้ให้เห็นว่า ชู้กับคู่สมรสมีความสัมพันธ์ในทำนองชู้สาวกันจริง เช่น
· ข้อความการสนทนาระหว่างชู้กับคู่สมรส ทางLine, Facebook Messenger, Twitter หรือแอพ
พลิเคชั่นต่างๆ
· ภาพถ่าย วิดีโอ ที่แสดงให้เห็นว่าชู้กับคู่สมรส มีความสัมพันธ์กัน
· ใบเสร็จค่าโรงแรมที่พัก บันทึกการเดินทางจาก Google Map , GPS
· ใบเสร็จรับโอนการซื้อของให้กันระหว่างชู้กับคู่สมรส
· การโอนเงินให้กันระหว่างคู่สมรส
· บุคคลที่รู้เห็นการเป็นชู้ เช่น เพื่อนบ้าน เพื่อนที่ทำงาน
หากผู้เป็นสามีต้องการฟ้องชู้ หลักฐานที่ใช้ฟ้องไม่จำเป็นต้องถึงขนาดให้เห็นว่า ทั้งคู่มีการแสดงตนโดยเปิดเผยว่ามีความสัมพันธ์ทำนองชู้สาว ไม่จำเป็นต้องเป็นการคบหาโดยเปิดเผยในที่สาธารณะ หรือมีบุคคลอื่นรู้ เพียงแค่มีหลักฐานข้อความการสนทนาทางไลน์หรือเฟสบุ๊ก ที่ให้เห็นว่าทั้งสองฝ่ายแอบคบหาและมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาว หรือรูปถ่ายส่วนตัวที่ไม่ได้เผยแพร่ หลักฐานที่ให้เห็นว่าทั้งคู่ไปอยู่ด้วยกันในโรงแรมสองคนก็สามารถฟ้องร้องได้
หากผู้เป็นภรรยาต้องการฟ้องชู้ หลักฐานที่ใช้ฟ้องนอกจากจะต้องมีหลักฐานที่ให้เห็นว่า ทั้งคู่มีความสัมพันธ์กันในทำนองชู้สาวแล้ว ยังต้องปรากฏหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่า มีการแสดงตัวโดยเปิดเผย และมีบุคคลอื่นๆ รับรู้ถึงความสัมพันธ์ในทำนองชู้สาวด้วย การแสดงตัวโดยเปิดเผยนั้น ไม่จำเป็นต้องชัดแจ้งถึงขั้นควงคู่กันออกงานต่างๆ หรือมีการลงรูปในสื่อออนไลน์ เช่น เฟสบุ๊ก หรือต้องจัดงานแต่งงาน เสมอไป
หากผู้เป็นภรรยาสามารถนำสืบได้ว่า ความสัมพันธ์ระหว่างชู้กับสามีนั้น มีบุคคลอื่นอีกหลายคนรับรู้ ไม่ใช่เป็นการคบหากันแบบลับๆ หรือเพียงครั้งคราว โดยไม่มีใครทราบ ก็พอเพียงที่จะฟ้องคดีได้
ดังนั้นหากท่านใดต้องการฟ้องชู้ควรปรึกษาทนายความเสียก่อนเพื่อให้ทนายความประเมินข้อเท็จจริงและแสวงหาพยานหลักฐานให้ก่อนฟ้องคดีนะครับ


ความคิดเห็น